การเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Doji Patterns
แท่งเทียน Doji คือ หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่นิยมใช้มากที่สุด, เป็นการให้ข้อมูลทั้งตัวเอง และประกอบกับตัวเลขของรูปแบบที่สำคัญ ในบทความนี้จะแยกแยะรูปแบบ doji candlestick ที่มีพลังที่สุดสำหรับการเทรด forex
Doji คือ อะไร
การก่อตัวเป็น Doji เมื่อราคาเปิดและปิดของคู่เงิน forex มีค่าเท่ากัน ความยาวของไส้เทียนด้านบน และด้านล่างจะแตกต่างกันไป, โดยแท่งเทียนจะมีลักษณะคล้ายกากบาท, กางเขนกลับหัว หรือ เครื่องหมายบวก doji ตัวเดียว จะเป็นรูปแบบที่เป็นกลาง การคาดว่าจะเป็น bullish หรือ bearish นั้นขึ้นอยู่กับ price action และ การยืนยันในอนาคต คำว่า “doji” มาจากรูปแบบทั้งเดี่ยวและคู่
เป็นการดี, แต่ไม่ได้จำเป็น, การที่ราคาเปิดและราคาปิดควรจะเท่ากัน ขณะที่ doji ที่เกิดจากราคาเปิด และราคาปิดเท่ากันจะพิจารณาว่าแข็งแกร่ง, สำคัญกว่าที่จะมองจากแท่งเทียน Doji สื่อถึงความรู้สึกไม่แน่ใจ หรือเป็นเกมชักเย่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ราคาขยับขึ้นและลงต่ำกว่าระดับเปิดในช่วงเซสชั่น แต่ปิดที่ใกล้ระดับเปิด ผลที่ได้คือความขัดแย้ง ไม่ว่าจะ bulls ตลาดกระทิง หรือ bear ตลาดหมี ก็สามารถควบคุม และเป็นจุดเปลี่ยนที่สามารถพัฒนาไปได้
คู่เงินที่แตกต่างจะมีขอบเขตที่แตกต่างกันในการกำหนดความแข็งแกร่งของ doji ซึ่งการกำหนดความแข็งแกร่งของ doji จะขึ้นอยู่กับราคา, ความผันผวน ณ ปัจจุบัน, และแท่งเทียนก่อนหน้า ความสัมพันธ์กับแท่งเทียนก่อนหน้านั้น, doji ควรมีลักษณะเนื้อเทียนที่เล็กมากเหมือนเส้นผอมๆ Steven Nison ได้บันทึกไว้ว่า doji ก่อตัวอยู่ท่ามกลางแท่งเทียนอื่นๆ ที่มีเนื้อเทียนเล็กๆ จะไม่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตาม, doji ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางแท่งเทียนที่มีเนื้อเทียนยาวจริงจะถือว่ามีความสำคัญ
อ่านต่อเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมว่า doji คือ อะไร หรือเล่นใน บัญชีทดลอง forex ที่ปราศจากความเสี่ยง และระบุการทำงานของรูปแบบ doji pattern ในเวลาจริง
Doji และ Trend
ความเกี่ยวข้องของ Doji ขึ้นอยู่กับแนวโน้มก่อนหน้าหรือเชิงเทียนก่อนหน้า หลังจากการเคลื่อนต่อไปข้างหน้า, หรือแท่งเทียนยาวสีขาว, สัญญา doji ที่กดดันแรงซื้อจะเริ่มอ่อนแรง หลังจากลดระดับลง, หรือแท่งเทียนดำยาว, สัญญาณ doji ที่กดดันแรงขายจะเริ่มลดทอนลง การชี้วัด Doji นั้นขึ้นอยู่กับกำลังของอุปสงค์และอุปทานที่สามารถจับคู่กันและเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจใกล้เข้ามา Doji ตัวเดี่ยวๆ ไม่เพียงพอที่จะเป็นการกลับตัว และยืนยันได้
หลังจากเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือแท่งเทียนยาวสีขาว, สัญญาณ doji ที่กดดันการซื้ออาจจะลดทอนลง และแนวโน้มขาขึ้นใกล้จะสิ้นสุด ในขณะที่หลักทรัพย์สามารถลดลงได้อย่างง่ายดายจากการขาดผู้ซื้อ, การกดดันแรงซื้ออย่างต่อเนื่องทำให้รักษาไว้ที่แนวโน้มขาขึ้น ดังนั้น, doji อาจมีความสำคัญมากกว่าหลังจากแนวโน้มขาขึ้น หรือแท่งเทียนยาวสีขาว เมื่อหลังจากการก่อตัว doji, นอกจากนี้การลดลงจำเป็นสำหรับการยืนยัน bearish ซึ่งอาจเป็นช่องว่างขาลง, แท่งเทียนสีดำยาว, หรือลดลงต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนยาวสีขาว หลังจากแท่งเทียนขาวสีขาว และ doji, นักเทรดควรจะเตรียมพร้อมสำหรับการเกิด evening doji star ที่อาจเกิดขึ้นได้
หลังจากการลดลง หรือแท่งเทียนสีดำยาว, การชี้บ่งของ doji คือ การกดดันแรงขายที่อาจจะลดลง และแนวโน้มขาลงใกล้จะสิ้นสุด ถึงแม้ตลาดหมีจะเริ่มขาดการควบคุมในการลดลง, นอกจากนี้ความแข็งแกร่งต้องยืนยันด้วยการกลับตัว การยืนยัน Bullish สามารถมาจากการเปิดช่องว่างขึ้น, แท่งเทียนยาวสีขาว หรือราคาเปิดของแท่งเทียนสีดำยาวก่อนหน้านั้นเหนือกว่า หลังจากแท่งเทียนสีดำยาว และ doji, นักเทรดควรจะเตรียมตัวสำหรับ morning doji star ที่อาจเกิดขึ้นได้
Doji ที่มีขายาว (Long-Legged Doji)
Long-legged doji มีไส้เทียนด้านบน และด้านล่างที่ยาวเกือบเท่ากัน doji เหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่ใจจำนวนมากในตลาด Long-legged doji บ่งชี้ว่าราคาเทรดสูงกว่าและต่ำกว่าระดับการเปิดของเซสชั่น, แต่ปิดระดับเดียวกับราคาเปิดเลย หลังจากเสียงโห่ร้องและกรีดร้องมากมายผลลัพธ์สุดท้ายแสดงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการเปิดครั้งแรก
Dragonfly Doji
Dragonfly doji ก่อตัวเมื่อราคาเปิด, สูง และปิดเท่ากัน และเกิดไส้เทียนยาวด้านล่าง ผลของแท่งเทียนเหมือนกับ “T” เมื่อขาดไส้เทียนด้านบน Dragonfly doji ระบุว่าผู้ขายครองอำนาจการซื้อขายและผลักดันราคาให้ต่ำลงในช่วงการซื้อขาย สุดท้ายของช่วงเวลานั้น, ผู้ซื้อพลิก และผลักดันราคากลับสู่ระดับเปิดและช่วงสูงสุด
การกลับตัวของ Dragonfly doji ขึ้นอยู่กับ price action ที่ผ่านมา และการยืนยันในอนาคต ไส้เทียนด้านล่างที่ยาวเป็นหลักฐานของแรงกดดันการซื้อ, แต่ราคาที่ต่ำบ่งชี้ว่าผู้ขายจำนวนมากกำลังจะมาถึง หลังจากแนวโน้มขาลง, แท่งเทียนยาวสีดำ, หรือที่เส้นแนวรับ, Dragonfly doji สามารถให้สัญญาณที่เป็นไปได้ที่จะเกิด bullish reversal หรือจุดต่ำสุด หลังจากแนวโน้มขาลง, แท่งเทียนยาวสีขาว หรือที่แนวต้าน, ไส้เทียนยาวด้านล่างสามารถแสดงให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่จะเกิด bearish reversal หรือจุดสูงสุด การยืนยัน Bearish หรือ Bullish ต้องการทั้งสองสถานการณ์
Gravestone Doji
Gravestone doji ก่อตัวเมื่อราคาเปิด, ต่ำ และปิดที่เท่ากับ และจุดสูงสุดเกิดไส้เทียนยาวด้านบน รูปแบบแท่งเทียนคล้ายกับ “T” กลับหัว เกิดจากการขาดไส้เทียนด้านล่าง Gravestone doji บ่งชี้ว่าผู้ซื้อครองการซื้อขายและผลักดันให้ราคาสูงขึ้นในระหว่างช่วงเวลนั้น อย่างไรก็ตาม, เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลานั้น, ผู้ขายกลับมาเพิ่มและผลักดันราคากลับไปที่ระดับเปิดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
เหมือนกับ dragonfly doji candlesticks และแท่งเทียนอื่นๆ, การกลับตัวของ gravestone doji ขึ้นอยู่กับ price action ก่อนหน้า และการยืนยันในอนาคต ถึงแม้ว่าไส้เทียนด้านบนที่ยาวจะบ่งชี้ว่าเกิดความล้มเหลว, แต่ระดับสูงสุดในระหว่างวันแสดงให้เห็นว่ามีการแรงกดดันการซื้อ หลังจากแนวโน้มขาลง, แท่งเทียนยาวสีดำ, หรือที่แนวรับ, เน้นกลับไปที่หลักฐานของแรงกดดันการซื้อ และความเป็นไปได้ที่จะเกิด bullish reversal หลังจากแนวโน้มขาขึ้น, แท่งเทียนยาวสีขาว หรือที่แนวต้าน, เกิดความลัมเหลว และเป็นไปได้ที่จะเกิด bearish reversal การยืนยัน Bearish หรือ Bullish จำเป็นสำหรับทั้งสองสถานการณ์
สุดท้ายเกี่ยวกับรูปแบบ Doji Patterns
ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น, การก่อตัวของ Doji สามารถสร้างได้สองวิธีที่แตกต่างกัน แต่การตีความของ Doji ยังคงเหมือนเดิม: รูปแบบ Doji pattern เป็นสัญลักษณ์ของความไม่แน่ใจ, ไม่ว่าจะเป็นตลาดกระทิง หรือ ตลาดหมี ก็สามารถจะครอบครองพื้นที่ได้
มีหลายวิธีในการเทรดรูปแบบ Doji candlestick patterns ที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม, นักเทรดควรมองหาสัญญาณที่เสริมกับแท่งเทียน Doji ที่แนะนำเพื่อเข้าการเทรดที่มีความน่าจะเป็นที่สูงขึ้น, สามารถใช้เป็น oscillators เช่น Stochastic, MACD หรือ RSI ที่ควรจะแสดง bullish divergence และ oversold ด้วยรูปแบบ Doji pattern ที่แสดงด้านล่าง หรือ bearish divergence และ overbought ด้วยรูปแบบ Doji pattern ที่แสดงด้านบน นอกจากนี้, มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้การจัดการความเสี่ยงที่ดีเมื่อทำการเทรดด้วย Doji เพื่อลดความสูญเสียถ้าการเทรดไม่ได้ผล
ทำความเข้าใจรูปแบบ doji candlestick patterns คือสิ่งสำคัญ, แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ, MetaTrader 5 AM Broker ให้คุณใช้เครื่องมือกราฟ และผู้สอนของเราสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับคุณ เริ่มเล่นในบัญชีทดลอง forex และสังเกตวิธีที่รูปแบบแท่งเทียนสามารถทำเงินให้คุณได้อย่างจริงจัง
คุณสามารถทดสอบสัญญาณการเทรดของรูปแบบ doji candlestick patterns โดยการเขียน EA Forex ใน Robo-Advisor 007 (ทดลองใช้ฟรี 14 วัน)
คุณต้องยึดตามระบบเทรดของคุณ !
ถ้าคุณได้ทำการ Back Test แล้วก็ควรจะดำเนินการเทรดเดโม ซักสองเดือน คุณก็คงจะมั่นใจมากขึ้น ถ้าคุณทำตามกฏ และจะกำไรในท้ายที่สุด เชื่อระบบของคุณ และ เชื่อมั่นในตัวคน !
ถ้าคุณอยากจะเห็นตัวอย่างซักตัวอย่างของระบบที่ซับซ้อนขึ้น ลองดูที่ HLHB system หรือที่ Pip Surfer ชื่อ Cowabunga system
สรุปการสร้างระบบเทรดของคุณ
มีระบบหลายระบบที่ใช้งานได้ดี แต่ว่า หลายคนนั้นขาดวินัยที่จะทำตามกฏ และก็จบด้วยการขาดทุน
ระบบเทรดของคุณควรจะตอบคำถามสองคำถาม :
1. สามารถบอกการเกิดเทรนด์ได้เร็ว
2. สามารถหาทางในการหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกได้
ถ้ามันทำกำไรได้ คุณก็ลองเทรดกับบัญชี เดโมซักอย่างน้อยสองเดือนซึ่งจะช่วยคุณเข้าใจว่ามันทำยังไงมากขึ้นเมื่อตลาดเคลื่อนไหวจริง ๆ มันต่างจากการทำ Back test มาก
เมื่อคุณเทรดเดโมแล้วสองเดือน ถ้าคุณทำกำไรได้ คุณก็พร้อมที่จะเทรดกับระบบกับเงินจริง ๆอย่างไรก็ตามจำไว้เสมอว่า ต้องทำตามกฏไม่ว่ายังไง !
มีขั้นตอน 6 ขั้นในการพัฒนาระบบเทรด :
1. หา Time Frame ที่เหมาะกับคุณ
2. หา Indicator ที่จะช่วยหาการเกิดเทรนด์
3. หาเครื่องมือที่จะช่วยหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกและยืนยันสัญญาณการเข้าเทรด
4. กำหนดความเสี่ยง
5. กำหนดจุดเข้าออก
6. เขียนกฏการเทรดและทำตามกฏนั้น !
การทดสอบระบบมีสามส่วน :
1. ย้อนไปในกราฟของคุณ แล้วก็ย้ายกราฟแท่งเทียนทีละแท่ง เทรดตามระบบเทรดและกฏ บันทึกผลการเทรดว่ามันได้กำไร ซึ่งเรียกว่า การ Backrest
2. ถ้ามันกำไร คุณเทรดระบบของคุณในบัญชีเดโม อย่างน้อยสองเดือน ซึ่งจะช่วยคุณเพิ่มความเข้าใจว่าระบบเทรดของคุณมากขึ้นในช่วงที่ตลาดเคลื่อน ไหว ซึ่งแตกต่างจากการท่าการ Back Test มากนัก
3. เมื่อคุณเทรดเดโมเรียบร้อยแล้ว และได้กำไร คุณก็พร้อมส่าหรับเทรดระบบของคุณกับเงินจริง ๆ อย่างไรก็ตามคุณควรจะจำไว้คือ คุณต้องทำตามกฏ !
โอเค ตอนนี้มาเรื่องสำคัญกัน ซึ่งฝ่ายกฎหมายของเราแนะนำให้ทำไว้ : ผลของการเทรดนั้นเป็นไปได้หลายรูปแบบ ซึ่งได้อธิบายไว้แล้ว เราไม่ได้แสดงให้เห็นว่าวิธีการที่เรา เทรดนั้นได้กำไรหรือขาดทุนจริงๆ แล้วผลการเทรดออกมาได้แตกต่างกันมากมายจากการเทรดแบบสมมติที่ใช้ในตัวอย่าง และการเทรดจริงที่ได้กำไรหรือขาดทุนตามที่แสดงไว้ตามโปรแกรมเทรด ข้อจำกัดของการเทรดที่สมมติข้างต้นในนี้คือ มันได้เตรียมไว้ว่าจะต้องได้กำไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การเทรดสมมติข้างต้นดังกล่าว นั้นไม่ได้มีความเสี่ยงทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีผลการเทรดที่แน่นอนยืนยันที่มีความเสี่ยงทางการเงินมาเกี่ยวข้องแต่ อย่างใด ตัวอย่าง ความสามารถในการผ่านภาวะขาดุทนในบทความนี้จะใช้สื่อเพื่อว่ามันเกิดขึ้นได้ ในการเทรดเงินจริง มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับตลาด หรือเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ในการเทรด ซึ่งไม่สามารถเอามาอ้างถึงได้ในการยกตัวอย่างในบทความ ซึ่งสามารถกระทบต่อการเทรดบัญชีจริงได้
สมุดเล็คเชอร์ Divergence
มาทบทวนทั้งหมดที่เราเรียนไปกันหน่อย !
มี Divergence อยู่สองประเภท:
1. Divergence รูปแบบปกติ ( regular divergence )
2. Divergence รูปแบบแฝง ( Hidden divergence )
ประเภท | รูปแบบเทรนด์ | รูปแบบราคา | Oscillator | ค่าอธิบาย |
---|
แบบปกติ | Bullish | Lower Low | Higher Low | เส้นที่ขีดใต้ตัวอินดิเคเตอร์ของเรามีความแข็งแกร่ง ภาวะหมีก่าลังอ่อนตัวลง เกิดแนวโน้มว่าจะเกิดจุดกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น | |
Bearish | Higher High | Lower High | เส้นที่ขีดใน อินดิเคเตอร์ของเรามีความอ่อนแอภาวะตลาดกระทิงก่าลังอ่อนตัวลง มีสัณญาณเตือนว่าอาจจะเกิดจุดกลับตัวเป็นขาลง |
แบบแฝง | Bullish | Higher Low | Lower Low | เส้น ที่ขีดใน อินดิเคเตอร์มีความแข็งแกร่ง เหมาะส่าหรับการเข้า order หรือส่ง order เพิ่มอีกครั้งหนึ่ง จะเกิดระหว่างเทรนด์ขาขึ้น ให้สังเกตุดูราคามาทดสอบแนวรับที่จุด Low และเกิดการกลับเทรนด์เสียก่อน | |
Bearish | Lower High | Higher High | เส้น ที่ขีดในอินดิเคเตอร์ มีการอ่อนตัวของเทรนด์ ซึ่งจะพบระหว่างเทรนด์ขาลง ควรที่จะดูราคาให้กลับจากการชนแนวต้าน หรือการเกิด High ก่อน และมีการ Sell ตามมา |
ฮู้วววว มีอะไรต้องจ่าเยอะแยะไปหมดเลย ใช่ไหม? เรามีตัวเลือกให้คุณสองตัวเลือก สรุป : Divergencesกรุณาจำไว้ว่า เราใช้ Divergence เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่สัณญาณในการเข้าเทรด ! มีวิธีสองวิธี ในการใช้ Divergence อย่างไรให้ได้เปรียบหรือเกิดประโยชน์มากที่สุด วิธีแรกคือ ให้มองหาเทรนด์ หรือใช้รูปแบบของกราฟแท่งเทียนในการยืนยันทั้งจุดกลับตัวหรือจุดที่คิดว่าเทรนด์จะไปต่อในการส่ง order ถ้าเราเทรดตรงข้ามกับ อินดิเคเตอร์ของเรามันอันตรายมาก 1 2 3 4 5กฏ 9 ข้อในการใช้ Divergenceก่อนที่เราจะเริ่มไปศึกษาด้วยตัวคุณเองเรามาลองดูกฎของมันทั้ง 9 ข้อ ก่อนที่จะไปเทรดด้วย Divergence กัน ให้คุณเรียนรู้กฏ จดจำกฏ (หรือย้อนกลับมาอ่านตรงนี้บ่อยๆก็ได้) และประยุกต์ใช้ในการเทรดของคุณให้ดีขึ้นหรือไม่ก็ช่างมัน ข้ามไปแล้วก็เตรียมล้างพอร์ท 1. ดูให้ดีซะก่อนว่าแว่นคุณใสสะอาดดีรึเปล่า ในการเกิด Divergence นั้น ราคามักจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้ : – Higher high สูงกว่าราคา high ก่อนหน้า อย่าพึ่งไปดูตัวอินดิเคเตอร์ ถ้าเกิดว่าไม่มีการเกิดรูปแบบนี้ขึ้นมา ถ้าคุณไม่ได้ทำตาม คุณก็ไม่ได้เป็นนักเทรด Divergence หรอก คุณเป็นแค่นักเทรดที่ใช้จินตนาการคิดไปเอง และให้รีบไปเข้าร้านตัดแว่น หาแว่นใหม่ซักอันดีกว่า 2. วาดเส้นเทรนด์ไลน์ ที่ราคา สูงสุด และราคาต่ำสุด 3. ท่าในสิ่งที่ถูกต้อง – ให้ลาก TOPS และ BOTTOMS เท่านั้น 4. จับตาดูที่ราคาตลอด 5. ให้ทำตัวเหมือนกับ Pip Diddy (วาทยากรคนหนึ่ง) 6. ให้ตรงกับแนว 8. ถ้าเราตกเรือแล้ว ให้รอลำต่อไป 9. กลับมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะที่การใช้ Divergence ในการเทรดนั้นเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมนั้นในกล่องเครื่องมือของคุณแล้ว คุณยังต้องเอาใจใส่กับการไม่เข้าเทรด เร็วเกินไปด้วย เพราะว่าคุณไม่ได้รอให้เกิดสัณญาณยืนยันเสียก่อน ข้างล่างเป็นเกร็ดเล็ก น้อย ที่จะใช้ในการยืนยันสัณญาณว่า Divergence ที่ให้มีความแม่นยำขนาดไหนรอให้เกิดการ Crossover (ตัดข้ามเส้น )ให้หลุดแนว Overbought / oversoldอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราต้องรอให้ Momentum ในอินดิเคเตอร์ของเราชนแนว overbought และ oversold ของเราเสียก่อน และให้รอมันหลุดแนว Overbought และ Oversold ลงมา เพื่อเป็นการยืนยันสัณญาณ เหตุผลในเรื่องนี้ก็เหมือนๆ กัน กับการรอให้เกิดการ Crossover ของอินดิเคเตอร์ (Stochastic) คุณไม่ควรจะเข้าเทรดเมื่อ Momentum ของอินดิเคเตอร์กำลังจะยกตัวขึ้น วาดเส้น Trend lines ในตัวอินดิเคเตอร์ฟังดูอาจจะน่าหัวเราะ ไปซักหน่อยซึ่งปกติคุณจะวาดเส้นเทรนด์ไลน์ในกราฟแท่งเทียนเท่านั้น แต่ว่ามันเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอยากจะให้คุณรู้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆจาก : http://www.jubtadu.com/forex/basic-degree/trick-momentum.htmlตัว Divergence นั้นนอกจากจะให้สัณญาณจุดกลับตัวแล้วยังใช้ในการบอกสัณญาณว่าจะเกิดเทรนด์ ต่อเนื่องหรือไม่ด้วย และจำไว้อยู่เสมอว่า เทรนด์เป็นเสมือนเพื่อนของคุณ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้สัญญาณว่าจะเกิดเทรนด์อย่างต่อเนื่อง คุณก็ควรจะรู้ว่าควรจะต้องทำยังไงล่ะ! ทีนี้เราลองมาทบทวนบทเรียนกันนิดหน่อย ที่คุณได้เรียนมาทั้งหมด เกี่ยว Hidden divergence หรือสัญญาณ Divergence แฝง เราจะใช้ Divergences ในการเทรดได้อย่างไร?ตอนนี้ถึงเวลาที่จะใช้ Jedi-divergence ของเจได (สตาวอร์) ในการทำกำไรจากตลาดแล้ว ขณะที่ราคาได้เกิดรูปแบบ Lower lows (ตามกราฟแท่งเทียน) แต่ stochastic (ตัวอินดิเคเตอร์ที่เราเลือกใช้) กำลังแสดงภาวะ higher low 2020-07-05T21:42:11.533-07:00 รูปแบบกราฟสามเหลี่ยม Triangle ที่นิยมใชักัน สวัสดีค่ะเทรดเดอร์ วันนี้เรามีเพื่อนมาแนะนำให้รู้จัก ชื่อ Inside bar บางคนอาจรู้จักดีอยู่แล้ว บางคนได้ยินแต่ชื่อแต่ไม่ได้สนใจ และบางคนอาจไม่รู้จัก หรือ รู้จักแต่ไม่คุ้นไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไงกันแน่ วันนี้เรามารู้จักเจ้า Inside bar กัน เพราะเราจะได้เจอมันบ่อยๆ และเราสามารถใช้มันเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเข้าออเดอร์ได้ดีทีเดียวค่ะ ร้อง อ๋อ ! กันรึยังคะ เพราะไอ้หน้าตาแบบนี้เราจะเจอกันบ่อยมาก แต่อาจไม่ได้สังเกตุ มันก็คือ แท่งเทียนที่มีขนาดเล็กกว่าและวิ่งไปมาอยู่ในกรอบราคาของแท่งเทียนก่อนหน้านั่นเอง ซึ่งเราจะเหมารวมเอาไส้เทียนด้วยนะค่ะ จากภาพด้านบน จะเห็นตัวอย่างการเข้าออเดอร์และเซ็ท SL ในการเทรด Inside bar กันแล้วนะคะ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า Inside bar คือ Price action รูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนการเทรด Breakout ธรรมดาทั่วไป แต่นี่คือการ Breakout ในกรอบราคาของแท่งเทียนเท่านั้นเองค่ะ จากภาพแสดง Inside bar ในสภาวะที่ตลาดผันผวน ซึ่งเราจะเจอได้บ่อยๆในตลาด Forex ดังนั้น เราก็ต้องให้ความยืดหยุ่นเค้าหน่อย ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วยนะคะ ถ้าเป็นแบบในกรณีนี้ ก็ปล่อยเค้าก่อนค่ะ รอต่อไป 2020-11-29T18:57:43.965-08:00 Outside Bar คืออะไร? สวัสดีค่ะเทรดเดอร์ จากบทความที่แล้วเราได้รู้จัก Inside bar กันไปแล้ว คราวนี้เรามารู้จักญาติสนิทเจ้า Inside bar กันบ้าง มันคือ “Outside Bar” นั่นเองค่ะ เจ้า Outside bar นี่ก็คือ Price Action รูปแบบหนึ่ง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คุ้นเคยแต่กับ Inside bar ไม่ค่อยมีใครพูดถึง Outside bar กันเท่าไหร่ ทั้งที่หน้าตาของมันคล้ายกันมาก แค่มี Mother bar ปิดท้ายอยู่ข้างหลัง เป็นยังไงคะ หน้าตาของเจ้า Outside bar ละม้ายคล้ายกันกับ Inside bar มั้ยล่ะคะ Outside bar ก็จะแยกออกมาได้อีก สองประเภทนะคะ คือ Bullish Outside bar และ Bearish Outside bar ในการแยกประเภทก็ง่ายมากค่ะ คือดูตามสีของแท่ง Outside Bar แค่นั้นเอง ไม่ยากใช่มั้ยคะ ทีนี้เราก็ต้องมารู้จักวิธีการใช้งานเจ้า Outside bar นี่กันก่อนว่าจะทำยังไงดีเมื่อเราเจอมันในกราฟของเรา เรามาดูตัวอย่างกราฟจริงกันเลยค่ะ จากตัวอย่างจะเป็นกราฟ EU M30 วันที่ 25-26/09/55 เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะคุ้นหน้าเจ้า Outside Bar กันบ้างรึยัง จริงๆแล้วมันอยู่กับเราตลอดเลย แต่เราไม่เคยสังเกตุมันเท่านั้นเอง อาจจะเพราะมันไม่ใช่ “ซุปตาร์ บาร์” เลยไม่มีคนสังเกตุ ฮ่าๆ แต่ถ้าเรารู้จักว่าจะใช้มันยังไง มันก็มีประโยชน์นะคะ
Outside bar จะใช้ได้ผลดีมากถ้าใช้ควบคู่กับการดูเทรน เพราะฉะนั้น ก็ลองหาเทรนไลน์มาลากเอาไว้ในกราฟด้วยก็ดีนะคะ การจะหาเป้าหมายราคา ก็ต้องมีตัวช่วยค่ะ เพราะ Outside bar บอกได้แค่ว่ากราฟจะไปทางไหน แต่ไม่ได้บอกระยะ TP เราก็อาจจะใช้ Fibonacci หรือการวิเคราะห์ อื่นๆ เป็นตัวช่วยหา TP หลัการเปิดออเดอร์ก็เปิดที่ราคาปิด แล้วไป SL ไว้ที่ปลายอีกด้านของแท่งเทียนค่ะ สวัสดีค่ะเทรดเดอร์ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง Fakey Setup หลายคนคงพอได้ยินมาบ้าง แต่บางคนก็งง มันคืออะไรหว่า มันก็คือ Price Action รูปแบบหนึ่ง เป็นคู่อริกับ Inside Bar (ที่เคยเขียนไปแล้ว) แต่อยู่ในตระกูลเดียวกัน ถ้าใครรู้จัก Inside Bar แล้ว พอมาพูดถึง Fakey Setup ก็หมูเลย แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคะ ว่ามันหลอกลวง ^^ Fake-y แล้วมันหลอกยังไง เรามาดูกันค่ะ เอาละ ทีนี้ก็รู้จักหน้าค่าตากันแล้วนะคะ ว่า Fakey Setup หลอกลวงยังไง จะใช้หลักการจำง่ายก็คือ ” Fakey Setup คือ Fail Breakout ของ Inside Bar นั่นเอง” ไม่ยากใช่มั้ยคะ ^^ทีนี่้เราลองมาตัวอย่างกราฟจริงกันบ้าง จากภาพที่ผ่านๆมา เห็นมั้ยคะว่าไม่ยากอย่างที่หลายๆคนกลัวกันเลย และมีหลักการจำง่ายๆ แค่นั้นเองค่ะ ปล. การเทรดในตลาด Forex โดยการใช้ Fakey Setup นี้ถ้าจะให้ได้ผลดี ควรใช้กับคู่เงินที่เป็นคู่ Major ทั้งหลาย เพราะกราฟพวกนี้จะไม่ค่อยหลอก คู่ Major ก็คือ คู่เงินหลักๆที่เรานิยมเทรดกัน มักจะมีค่าเงิน USD ร่วมอยู่ด้วย เช่น EURUSD,AUDUSD,USDJPY……. ทีนี้เราลองมาดูภาพที่มีอะไรมากกว่า Fakey Setup กันบ้างนะคะ เป็นรูปแบบที่มี หลาย Pattern ซ้อนกันอยู่ ก่อนจะมาดูตัวอย่างสุดท้ายนี้ อยากให้ทำความเข้าใจกับ Inside bar และ fakey Setup กันก่อนนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะงงได้ค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ จากภาพตามตัวอย่างสุดท้าย งงกันมั้ย การเทรดโดยใช้ แนวรับ แนวต้านเมื่อกราฟเจอแนวรับแนวต้าน มันจะทำอะไรได้บ้าง?หลาย ๆ ครั้งที่เวลากราฟเจอกับแนวรับแนวต้านแล้ว เรามักจะมองไม่ออกว่ามันจะเอายังไงกันแน่ เหมือนจะทะลุก็ไม่ทะลุ จะไปก็ไม่ไป หาความแน่นอนไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้ใครหลาย ๆ คนหันไปเลือก Indicators มาช่วยเพื่อหวังว่ามันจะพยากรณ์กราฟล่วงหน้าให้กับเรา แต่ก็ยังต้องเจ็บช้ำน้ำใจเมื่อเจอ Indicators หลอกอีก วันนี้ผมเลยเอาภาพตัวอย่างของความเป็นไปได้ที่จะเกิดเมื่อกราฟเจอกับแนวรับ แนวต้านมาให้ชมกันครับ จากรูปนี้เราจะเห็นได้ว่ากราฟมีความ เป็นไปได้ถึง 10 แบบเมื่อเผชิญหน้ากับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ความเป็นไปได้ยังน้อยกว่าการสุ่มกากบาท ก ข ค ง เสียอีก แล้วคุณลองคิดภาพว่าคุณไม่รู้คำตอบแต่คุณกำลังสุ่มกากบาทจาก ก ข ค ง จ ฉ ช ซ ฯลฯ ไม่ผิดอะไรสำหรับคนที่พึ่งเริ่มเทรดได้ไม่ถึงปีที่จะยังแยกไม่ออกระหว่าง การเดากราฟ กับ การเทรดตามกราฟ มันต่างกันยังไง เหตุผลที่เราพยายามเสาะหา อินดิเคเตอร์ มากมายในช่วงแรกมาเทรดนั่นเป็นเพราะ เราต้องการจะรู้อนาคตซึ่งเราเชื่อว่าคนที่รู้อนาคตเท่านั้นที่จะสามารถเทรด ได้ เราจึงหาอินดิเคเตอร์มาเพราะคิดว่า “มันจะสามารถบอกเราล่วงหน้าได้ว่ากราฟจะทะลุแนวรับแนวต้านนั้น ๆ ได้หรือไม่” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตัวอินดิเคเตอร์เองก็วิ่งตามราคานั่นละครับเพราะมันคำนวณค่าออกมาจากตัวราคา ทั้งสิ้น การหาเป้าหมายราคาและจุดตัดขาดทุนด้วย Fibonacciการหาเป้าหมายราคาด้วย Fibonacci extension และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาลงมาพักตัวทำให้เกิดสวิงโลว์
จากตัวอย่างเห็นได้ว่า ที่ระดับ 61.8% ,100% และ 161.8% ต่างก็เป็นระดับที่ดีสำหรับการปิดทำกำไรบางส่วน และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคากลับตัวจากระดับของ Fibonacci retracement
จากตัวอย่าง เราสามรถเลือกปิดทำกำไรบางส่วนได้ที่ระดับ 38.2% , 50.0% ,61.8% และทุกระดับนั้นทำหน้าที่เป็นแนวรับ และเทรดเดอร์อื่นๆก็อาจจะทำเช่นเดียวกันนี้เหมือนกัน อีกอย่างที่สำคัญในการเทรดไม่น้อยไปกว่าการเข้าออเดอร์ หรือการปิดทำกำไรก็คือ ควรรู้ว่าจะตัดการขาดทุน (SL) ที่ตรงไหน คุณไม่สามารถเทรดโดยใช้ Fibonacci โดยไม่คำนึงถึงจุดตัดขาดทุนได้ ก็เหมือนกับการเทรดด้วยเครื่องมืออื่นๆเช่นกัน และวิธีการตั้ง SL ในการเทรดโดยใช้ Fibonacci นั้น ไม่ยุ่งยากเลย โดยเราจะยึดระดับ Fibonacci ที่มีนัยยะเป็นหลัก วิธีแรกคือ การตั้ง SL ไว้เลยระดับของ Fib ต่อไป เช่น หากคุณวางแผนที่จะเปิดออเดอร์ที่ระดับ 38.2% คุณก็ควรตั้ง SL ให้เลยระดับ 50.0% ไปเล็กน้อย ถ้าคุณคิดว่าระดับ 50.0% จะสามารถต้านราคาอยู่ ดังนั้นคุณก็ควรตั้ง SL ไว้เลย 61.8% ไปเล็กน้อย อย่างนี้เป็นต้น เราลองมาดูตัวอย่าง กราฟ EUR/USD ใน TF H4 หากคุณทำการเซลที่ระดับ 50.0% คุณอาจจะวาง SL ไว้เลยระดับ 61.8% ไปเล็กน้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณคิดว่า ระดับ 50.0% นี้น่าจะต้านราคาไหวและเป็นจุดกลับตัวของราคาได้ ดังนั้นถ้าราคาปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าจุดที่คุณตั้ง SL ไว้ก็แสดงว่าความคิดของคุณนั้นไม่ถูกต้อง ปัญหาของการตั้ง SL อย่างนี้ขึ้นอยู่กับการเปิดออเดอร์ที่เหมาะสมของคุณ 2020-07-04T05:38:26.365-07:00 Fibonacci กับ Trend line และ Candle Stick Fibonacci กับ Trend line จากภาพด้านบน ทำให้คุณคิดว่าคุณอยากจะเข้าบาย AUD/JPY ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการเทรดในระยะสั้นๆ และเราคิดว่าจะเข้าบายเมื่อราคาลงมาเทสที่เส้น Trend line อีกครั้ง และในระหว่างรอนั้น เราก็จะเอา Fibonacci ออกมาใช้ เผื่อว่าเราจะได้ราคาเข้าบายที่แน่นอนมากขึ้น ตอนนี้เราได้ลาก Fibonacci Retracement ลงในกราฟของเราแล้ว โดยใช้สวิงโลว์ที่ 82.61 และ สวิงไฮที่ระดับ 83.84 สังเกตว่าที่ระดับ Fib 50.0% และ 61.8% เป็นระดับที่ตัดกับเส้น Trend line ที่เอียงสูงขึ้นตามแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งระดับเหล่าจะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ราคาอาจจะลงมาเทสได้ในอนาคตอันใกล้ เสริม EXNESSSupport By www.siammetatrader.com Pagesพวกเราจะเปลี่ยนเงินจาก 100 $ เป็น 10000$ ภายใน 1 ปี ได้มั้ยวิธีถอนเงิน ถอนกำไร Exness เข้าธนาคารในไทย Withdrawal Fundsวิธีถอนเงิน ถอนกำไร Exness เข้าธนาคารในไทย Withdrawal Funds 1. ไปที่หน้าเว็บไซต์ Exness คลิกเข้าสู่ระบบ ใส่ ID บัญชีเทรด และรหัส เพื่อเข้าสู่ระบบ ตามภาพประกอบ 2. เข้าที่ menu การถอนเงิน(Withdrawal) 4. เลือกธนาคารในไทยที่เราต้องการถอนเงินจากExness ที่Bank Name ในตัวอย่าง เป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) 5. ใส่เลขที่บัญชีธนาคารที่ต้องการให้ Exness โอนเงินเข้า และใส่จำนวนเงินที่ต้องการถอนหน่วยเป็น USD คลิกปุ่มทำการถอนเงิน 6. ถ้าชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อที่เราเปิดพอร์คลงทุน ระบบก็จะให้เราใส่รหัสผ่านเพื่อทำการยืนยัน รหัสจะถูกส่งไปยัง emailของเรา ดังภาพด้านล่างให้เอารหัสนั้นมาใส่ จากนั้นให้คลิกปุ่ม ยื่นยันการถอนเงิน 7. ระบบการถอนเงินexness ก็จะแสดงหน้าจอ และสถานะการถอนเงิน 8. เมื่อไม่มีการยกเลิกการถอนเงิน ไม่นาน เมื่อเงินเข้าบัญชีธนาคาร สถานะก็จเปลี่ยนเป็น ยอมรับแล้ว 9. SMS แจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี Exness Automatic Withdrawal ระบบเบิกเงินอัตโนมัติง่ายสะดวก รวดเร็ว กดถอนเงินไม่กี่นาทีเงินเข้าบัญชีเราทันที ทฤษฎีดาวถูกคิดค้นขึ้นโดยนายชาร์ลส์ เอช ดาว (Charles H. Dow) หรือบิดาแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคการติดตั้งโปรแกรมเทรด MetaTrader (MT4) – การ Login เข้าโปรแกรมซื้อ ขายการติดตั้งโปรแกรมเทรด MetaTrader – EXNESS 1. ดาวน์โหลดโปรแกรม คลิกที่ Run 3. คลิก Next เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม 4. ติ๊กยอมรับข้อกำหนดของโปรแกรม แล้วคลิก Next 5. เลือกที่อยู่ในการลงโปรแกรม คลิก Next ได้เลยครับ ไม่ต้องเปลี่ยน 9. คลิก Finish เพื่อเสร็จสิ้นการลงโปรแกรมสำเร็จ 10. จะมี Icon ขึ้นที่หน้า Desktop การ Login เข้าโปรแกรมซื้อ ขาย MetaTrader 4 – EXNESS 2. ใส่เลขบัญชีเทรด รหัสผ่าน คลิด Login เท่านั้นก็เรียบร้อยครับ Mark Douglas ทัศนคติแห่งการเก็งกำไรเเนะนำวิธีดูข่าว www.forexfactory.comCurrency (ค่าเงิน), Impact (ความแรงของข่าว), Actual (ตัวเลขที่ออกจริง), forecast(ตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์) ,previous(ตัวเลขที่ออกก่อนหน้านั้น)Impact มันจะมีสี กำกับอยู่หน้าข่าวครับ โดยสีแดงจะเป็นข่าวที่มีความสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือสีส้ม และสีเหลือง และสีข่าวจะแสดงว่าเป็นวีนหยุดของตลาดของประเทศนั้นและตัวเลขจริงที่ออก มา Actual ตัวเลขที่ออกมาจะมี 3 สีด้วยเช่นกัน คือ สีเขียว หมายถึง ข่าวดี โดย ขึ้นอยู่กับความแรงของข่าวด้วย Impact ถ้าข่าว High Impact สีแดง และตัวเลขที่ประกาศออกมา เป็นสีเขียวหรือสีแดง ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงประมาณ 1xxpips ขึ้นไป -วิธี การเก็งกำไรจากข่าวในตาราง Forexfactory ให้รอดูตัวเลขจริง Actual ออกมาก่อนนะครับ เมื่อตัวเลขจริง(actual)ออกมามากกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลขที่คาด การณ์(forecast)ไว้จะส่งผลทำให้ดีกับค่าเงินนั้นๆ แต่ถ้าตัวเลขจริงออกมาน้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลเสียกับค่าเงิน นั้นๆ เช่น ถ้าข่าวของ USD ออกมามากกว่า ตัวเลขคาด การณ์(Forecast) จะทำให้ USD / XXX ขึ้น และทำให้ XXX / USD ลง ( XXX คือ ค่าเงินของประเทศนั้นๆเมื่อเทียบกับดอลล่าห์สหรัฐ(USD)อาทิเช่น JPY CHF CAD AUD NZD GBP ) ถ้าข่าว Gross Domestic Product หรือ GDP ของอังกฤษ(GBP) ตัวเลขออกมามากกว่าที่ตัวเลขที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้จะส่งผลให้ กราฟของ GBP/USD , GBP/JPY,GBP/CHF ขึ้น และกราฟ EUR/GBP จะลง ระดับความสำคัญของปฏิทินเศรษฐกิจ 2. สำคัญ 3. ทั่วไป คราวนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศนั้นเกี่ยวอะไรกับราคาทองคำ โดยปกติราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับ คราวนี้ตัวเลขที่ประกาศจะกระทบกับ 2 อย่างตรงๆ คือ อัตราแลกเปลี่ยน กะราคาน้ำมัน แล้ว 2 ตัวนี้มีความเกี่ยวข้องกะราคาทองคำอย่างไร? 2. ราคาน้ำมัน จะเป็นตัวช่วยดัน หรือ ฉุด ราคาทองคำในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ระดับที่เรียกว่าสำคัญมาก. ระดับที่เรียกว่าสำคัญ. ระดับปานกลางถึงทั่วไป โดยมากใช้เป็นตัววัดพื้นฐาน. กลุ่มสำคัญมาก Gross Domestic Product หรือ GDP Personal Consumption Expenditure หรือ (PCE) Consumer Price Index หรือ CPI Treasury International Capital System หรือ TICS Federal Open Market Committee หรือ FOMC Retail Sales University of Michigan Consumer Sentiment Index Producer Price Index หรือ PPI กลุ่มสำคัญ Personal Income Personal Spending Europe Central Bank (ECB), Bank Of England (BOE), Bank Of Japan (BOJ) – อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (อาจจะอ่อนไป หรือแข็งไป) ECB ประกอบไปด้วย 25 ประเทศในยุโรป คือ Italy, France, Luxembourg, Belgium, Germany, Netherlands, Denmark, Ireland, United Kingdom, Greece, Spain, Portugal, Austria, Finland, Sweden, Czech Republic, Estonia, Cyprus, Latvia, Lithuania, Hungary, Malta, Poland, Slovakia และ Slovenia Durable Goods Orders Philadelphia Fed Survey ISM Service Index หรือ Non-Manufacturing ISM Factory Orders Industrial Production Non-Farm Productivity |